เมนู

10. กรรณกัตถลสูตร



[571] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ตำบลกรรณกัตถลมิคทาย-
วัน ใกล้อุทัญญานคร. ก็สมัยนั้นแล พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จไปถึงอุทัญญา
นครด้วยพระราชกรณียะบางอย่าง. ครั้งนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลตรัสเรียก
บุรุษคนหนึ่งมาตรัสสั่งว่า ดูก่อนบุรุษผู้เจริญ มานี่แน่ะ ท่านจงเข้าไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับแล้วถวายบังคมพระยุคลบาทด้วยเศียรเกล้า จง-
ทูลถามถึงความมีพระอาพาธน้อย มีพระโรคเบาบาง ทรงกระปรี้กระเปร่า มี
พระกำลัง ทรงพระสำราญ ตามคำของเราว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระเจ้า
ปเสนทิโกศลขอถวายบังคมพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยพระเศียร
เกล้า ทลถามถึงความมีพระอาพาธน้อย มีพระโรคเบาบาง ทรงกระปรี้กระ-
เปร่า มีพระกำลัง ทรงพระสำราญ และจงกราบทูลอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ ทราบด้วยเกล้าว่า วันนี้พระเจ้าปเสนทิโกศลเสวยพระกระยาหารเช้าแล้ว
เวลาบ่ายจักเสด็จเข้ามาเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า บุรุษนั้นทูลรับสนองพระบรม
ราชโองการแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง
ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระเจ้า-
ปเสนทิโกศล ขอถวายบังคมพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยพระเศียร
เกล้า ทรงทูลถามถึงความมีพระอาพาธน้อย มีพระโรคเบาบาง ทรงกระปรี้
กระเปร่า ทรงพระกำลัง ทรงพระสำราญ และรับสั่งมาทูลอย่างนี้ว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ ทราบว่า วันนี้พระเจ้าปเสนทิโกศลเสวยพระกระยาหารเข้าแล้ว
เวลาบ่ายจักเสด็จมาเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า พระเจ้าข้า.

[572] พระราชภคินีทรงพระนามว่าโสมา และพระราชภคินีทรง
พระนามว่าสกุลา ได้ทรงสดับข่าวว่า ได้ทราบว่าพระเจ้าปเสนทิโกศลเสวย
พระกระยาหารเช้าเสร็จแล้ว เวลาบ่ายจะเสด็จไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ลำดับ
นั้นแล พระราชภคินีพระนามว่าโสมา และพระราชภคินีพระนามว่าสกุลา
เสด็จเข้าไปเฝ้าพระเจ้าปเสนทิโกศลในที่เสวยพระกระยาหาร แล้วได้กราบทูลว่า
ข้าแต่มหาราช ถ้าเช่นนั้น ขอพระองค์ทรงถวายบังคมพระยุคลบาทของพระผู้-
มีพระภาคเจ้าด้วยพระเศียรเกล้า จงทรงถามถึงความมีพระอาพาธน้อย มีพระ
โรคเบาบาง ทรงกระปรี้กระเปร่า ทรงพระกำลัง ทรงพระสำราญ ตามคำ
ของหม่อมฉันทั้งหลายว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระภคินีนามว่าโสมาและภคินี
นามว่าสกุลา ขอถวายบังคมพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเศียรเกล้า
ทูลถามถึงความมีพระอาพาธน้อย มีพระโรคเบาบาง ทรงกระปรี้กระเปร่า
ทรงพระกำลัง ทรงพระสำราญ.
[573] ลำดับนั้นแล พระเจ้าปเสนทิโกศลเสวยพระกระยาหารเช้า
เสร็จแล้ว เวลาบ่ายเสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ทรงถวาย
บังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้
กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระภคินีนามว่าโสมา
และพระภคินีนามว่าสกุลา ขอถวายบังคมพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้า
ทูลถามถึงความมีพระอาพาธน้อย มีพระโรคเบาบาง ทรงกระปรี้กระเปร่า
ทรงพระกำลัง ทรงพระสำราญ พระเจ้าข้า. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามว่า
ดูก่อนมหาบพิตร ก็พระราชภคินีพระนามว่าโสมาและพระราชภคินีพระนามว่า
สกุลา ไม่ทรงได้ผู้อื่นเป็นทูตแล้วหรือ ขอถวายพระพร.
ป. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระภคินีนามว่าโสมาและพระภคินีนามว่า
สกุลาได้สดับข่าวว่า วันนี้หม่อมฉันบริโภคอาหารเข้าแล้ว เวลาบ่ายจักมาเฝ้า

พระผู้มีพระภาคเจ้า ลำดับนั้น พระภคินีพระนามว่าโสมาและพระภคินีพระ
นามว่าสกุลา ได้เข้ามาหาหม่อมฉันในที่บริโภคอาหาร แล้วตรัสสั่งว่า ข้าแต่
มหาราช ถ้าเช่นนั้น ขอพระองค์ทรงถวายบังคมพระยุคลบาทของพระผู้มีพระ
ภาคเจ้าด้วยเศียรเกล้า ขอให้ทูลถามถึงความมีพระอาพาธน้อย มีพระโรคเบา
บาง ทรงกระปรี้กระเปร่า ทรงพระกำลัง ทรงพระสำราญ ตามคำของหม่อม
ฉันว่า พระภคินีพระนามว่าโสมาและพระภคินีพระนามว่าสกุลาถวายบังคมพระ
ยุคลบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเศียรเกล้า และทูลถามความมีพระอาพาธ
น้อย มีพระโรคเบาบาง ทรงกระปรี้กระเปล่า ทรงพระกำลัง ทรงพระสำราญ
พระเจ้าข้า.
พ. ดูก่อนมหาบพิตร ขอพระราชภคินีพระนามว่าโสมาและพระราช-
ภคินีพระนามว่าสกุลา จงทรงพระสำราญเถิด ขอถวายพระพร.

พระเจ้าปเสนทิโกศล ทูลถามวรรณะ 4



[574] ลำดับนั้นแล พระเจ้าปเสนทิโกศลได้ทูลถามพระผู้มีพระภาค-
เจ้าว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้สดับมาว่า พระสมณโคดมตรัสอย่างนี้
ว่าสมณะหรือพราหมณ์ผู้รู้ธรรมทั้งปวง ผู้เห็นธรรมทั้งปวง จักปฏิญาณความรู้
ความเห็นอันไม่มีส่วนเหลือ ไม่มี ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ ชนเหล่าใดกล่าวอย่างนี้ว่า พระสมณโคดมตรัสอย่างนี้ว่า สมณะหรือ
พราหมณ์ผู้รู้ธรรมทั้งปวง ผู้เห็นธรรมทั้งปวง จักปฏิญาณความรู้ความเห็นอัน
ไม่มีส่วนเหลือ ไม่มี ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ชนเหล่านั้นเป็นอันกล่าวตามที่
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้วไม่เป็นอันกล่าวตู่พระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยคำไม่จริง
และพยากรณ์ธรรมสมควรแก่ธรรม อนึ่ง การกล่าวและการกล่าวตามอันประกอบ
ด้วยเหตุบางอย่าง จะไม่มาถึงฐานะอันผู้รู้จะพึงติเตียนแลหรือ พระเจ้าข้า.